แผนกโรงงานไพ่ จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติไพ่ พ.ศ. 2481 ภายใต้กองโรงงานฝิ่น (กรมสรรพสามิตปัจจุบัน) ตั้งเป็นแผนกการหนึ่งในการทำไพ่ เริ่มดำเนินกิจการตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2482

ในปี พ.ศ. 2486 ได้มีการปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับไพ่เพื่อให้รัดกุมและเหมาะสมยิ่งขึ้นจึงได้ตราพระราชบัญญัติไพ่ พ.ศ. 2486 ขึ้น โดยให้ยกเลิกพระราชบัญญัติไพ่ พ.ศ. 2481 และพระราชบัญญัติไพ่(ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2482 โรงงานไพ่ได้ดำเนินกิจการด้วยดีตลอดมา จนถึงปี พ.ศ. 2510 จึงได้มีการแบ่งส่วนราชการของกรมสรรพสามิต โดยยุบกองโรงงานเป็นแผนกโรงงานไพ่ และให้โรงงานไพ่ดำเนินกิจการผลิตไพ่ภายใต้การกำกับดูแลของกองการสามิต กรมสรรพสามิต จนถึงปี พ.ศ. 2534 กระทรวงการคลังจึงยกฐานะจากส่วนราชการ มาเป็นรัฐวิสาหกิจที่ไม่มีฐานะเป็นนิติบุคคล สังกัดกรมสรรพสามิต ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2535 เป็นต้นมา ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดตั้งโรงงานไพ่ กรมสรรพสามิต พ.ศ. 2535 โดยโรงงานไพ่ฯ มีภารกิจด้านการผลิตและจัดจำหน่ายไพ่ การให้บริการสิ่งพิมพ์ทั่วไป และสิ่งพิมพ์ปลอดการปลอมแปลง

โรงงานไพ่ กรมสรรพสามิต ได้ดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสิ่งพิมพ์ปลอดการปลอมแปลงตามแผนยุทธศาสตร์ของรัฐวิสาหกิจสาขาอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรม เพื่อให้องค์กรสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล มีการบริหารจัดการตามมาตรฐาน ตามวิสัยทัศน์ เป็น “เป็นผู้นำด้านสิ่งพิมพ์ปลอดการปลอมแปลงและดิจิทัลปริ้นติ้งโซลูชั่นภาครัฐ” โดยในโครงการฯ ดังกล่าวจะประกอบด้วย โครงการก่อสร้างอาคารโรงพิมพ์และปรับปรุงภูมิทัศน์ และโครงการจัดหาและติดตั้งระบบการผลิตสิ่งพิมพ์ด้านความปลอดภัยขั้นสูง (High Security Printing) โครงการก่อสร้างฯ จะก่อสร้างในพื้นที่ของกรมสรรพสามิต เป็นการก่อสร้างอาคารโรงพิมพ์ อาคารคลังสินค้า อาคารสำนักงาน และการติดตั้งระบบการผลิตสิ่งพิมพ์ด้านความปลอดภัยขั้นสูง

สำหรับธุรกิจหรือผลิตภัณฑ์สิ่งพิมพ์ปลอดการปลอมแปลง นอกจากเพื่อลดการปลอมแปลง และเป็นการสร้างมูลค่าให้แก่ผลิตภัณฑ์ ซึ่งต้องใช้เทคโนโลยีในการป้องกันระดับสูง เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่โรงงานไพ่มีแนวโน้มในการสร้างมูลค่าได้อย่างยั่งยืน ตลอดจนตอบสนองการเป็นผู้นำด้านสิ่งพิมพ์ปลอดการปลอมแปลง หรือ Security Printing อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งนับเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินงานเพื่อเข้าสู่รูปแบบดิจิตอลโซลูชั่นในอนาคต โดยเฉพาะเรื่องเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีสรรพสามิต

ดังนั้น โรงงานไพ่จึงให้ความสำคัญในการเข้าสู่การปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงตามเทคโนโลยียุคสมัย ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญที่จะพัฒนาในก้าวต่อไป โดยมีแผนรองรับการปรับตัวที่ชัดเจนเพื่อที่จะก้าวไปสู่การบรรลุภารกิจที่ตั้งไว้ จึงเป็นการนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของโรงงานไพ่ในรอบ 82 ปี

นอกจากการปฎิบัติหน้าที่ตามวัตถุประสงค์ พันธกิจ แล้ว โรงงานไพ่ยังตอบแทนสังคม ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยมีการจัดโครงการไปแล้วถึง 3 โครงการได้แก่

โครงการ “สติ๊กเกอร์แทนความห่วงใย โรงงานไพ่เพื่อสังคม” เพื่อต้องการให้โรงพยาบาล ได้มีสติ๊กเกอร์สำหรับใช้เป็นเชิงสัญลักษณ์ แสดงว่าผ่านการตรวจคัดกรองความเสี่ยงใช้ในหน่วยงาน และเพื่อให้ผู้บริหารและพนักงานโรงงานไพ่ ได้มีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมร่วมกัน เพื่อแสดงถึงความรับผิดชอบต่อสังคม จึงได้ลงพื้นที่นำสติ๊กเกอร์สำหรับติดเสื้อที่ผลิตจากวัสดุเหลือใช้ จำนวน 140 เล่ม (เล่มละ 3,600 ดวง) เพื่อเป็นการแสดงออกในเชิงสัญลักษณ์ว่าได้ผ่านการตรวจคัดกรองความเสี่ยงบริจาคให้กับโรงพยาบาล จำนวน 6 แห่ง ได้แก่

  1. โรงพยาบาลสงฆ์ จำนวน 30 เล่ม
  2. สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี จำนวน 20 เล่ม
  3. โรงพยาบาลเวชการุณย์รัศมิ์ จำนวน 20 เล่ม
  4. ศูนย์การแพทย์ปัญญานันทภิกขุ ชลประทาน จำนวน 30 เล่ม
  5. โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี จำนวน 20 เล่ม
  6. โรงพยาบาลหลวงพ่อทวีศักดิ์ ชุตินฺธโร จำนวน 20 เล่ม

ต่อด้วยโครงการ “โรงงานไพ่ ปันน้ำใจ ป้องกันภัยโควิด” จัดทำหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ หรือสิ่งของอื่นๆ เพื่อให้ประชาชนสามารถป้องกันตนเองจากเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เพื่อให้ผู้บริหารและพนักงานโรงงานไพ่ มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือและทำประโยชน์เพื่อสังคม เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ของโรงงานไพ่ กรมสรรพสามิต เป้าหมายเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ลงพื้นที่นำหน้ากากอนามัย จำนวน 1,020 ชิ้น เจลแอลกอฮอล์ จำนวน 108 แกลลอน และขวดเปล่าใส่แอลกอฮอล์ จำนวน 150 ขวด ไปมอบให้โรงเรียนในเขตพื้นที่จังหวัดนนทบุรี จำนวน 9 แห่ง และจังหวัดน่าน จำนวน 4 แห่ง ดังนี้

เขตพื้นที่จังหวัดนนทบุรี

  1. โรงเรียนวัดตำหนักเหนือ อ.ปากเกร็ด
  2. โรงเรียนชุมชนวัดต้นเชือก อ.บางใหญ่
  3. โรงเรียนวัดอินทาราม อ.ปากเกร็ด
  4. โรงเรียนบ้านคลองพระพิมล อ.ไทรน้อย
  5. โรงเรียนวัดตาล อ.ปากเกร็ด
  6. โรงเรียนประเสริฐอิสลาม อ.ปากเกร็ด
  7. โรงเรียนวัดกลางเกร็ด อ.ปากเกร็ด
  8. โรงเรียนวัดปรมัยยิกาวาส อ.ปากเกร็ด
  9. โรงเรียนวัดมะสงมิตรภาพที่ 55 อ.บางใหญ่

เขตพื้นที่จังหวัดน่าน

  1. โรงเรียนบ้านน้ำพุ อ.นาน้อย
  2. โรงเรียนบ้านพืชเจริญ อ.นาน้อย
  3. โรงเรียนบ้านนายาง อ.นาหมื่น
  4. โรงเรียนบ้านน้ำเคิม อ.นาหมื่น

จากการลงพื้นที่นำหน้ากากอนามัย จำนวน 1,020 ชิ้น เจลแอลกอฮอล์ จำนวน 108 แกลลอน และขวดเปล่าใส่แอลกอฮอล์ จำนวน 150 ขวด ไปมอบให้โรงเรียน พบว่าโรงเรียนมีความต้องการใช้เจลแอลกอฮอล์อีกเป็นจำนวนมาก เนื่องจากนักเรียนจะต้องรักษาสุขอนามัยในการล้างมือ และใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมืออย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ทั้งนี้ การดำเนินโครงการโรงงานไพ่ ปันน้ำใจ ป้องกันภัยโควิด ได้ดำเนินการตามเป้าหมายและวัตถุประสงค์เรียบร้อยแล้ว

นอกจากนี้ ยังมีโครงการ “สิ่งพิมพ์แทนใจ โรงงานไพ่พัฒนาสังคม” เพื่อให้พนักงานโรงงานไพ่เกิดความตระหนักในการมีจิตอาสาด้วยการผลิตสิ่งพิมพ์และมอบเป็นสาธารณะประโยชน์แก่สังคม และเพื่อสร้างเครือข่ายและความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันระหว่างองค์กร กับโรงเรียนและชุมชน แสดงถึงความรับผิดชอบต่อสังคม ด้วยการลงพื้นที่นำแบบฝึกหัดเสริมทักษะภาษาไทยและภาษาอังกฤษ จำนวน 500 เล่ม และนมกล่อง จำนวน 1,000 กล่อง ไปมอบให้โรงเรียน และชุมชนจำนวน 3 แห่ง ได้แก่

  1. ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กชุมชนข้างวัดสุคันธาราม
  2. ชุมชนข้างวัดสุคันธาราม
  3. โรงเรียนวัดเวตวันธรรมาวาส

จากการลงพื้นที่นำแบบฝึกหัดเสริมทักษะภาษาไทยและภาษาอังกฤษ และนมกล่อง ไปมอบให้กับโรงเรียนและชุมชน พบว่าชุมชนมีความต้องการของบริจาคในการจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น วันเด็ก เป็นต้น เนื่องจากชุมชนมีการจัดกิจกรรมอยู่เป็นประจำ ทั้งนี้ การดำเนินโครงการสิ่งพิมพ์แทนใจ โรงงานไพ่พัฒนาสังคม ได้ดำเนินการตามเป้าหมายและวัตถุประสงค์เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ โรงงานไพ่ กรมสรรพสามิต จะครบรอบ 82 ปี ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 นี้ ซึ่งจะมีการจัดพิธีวันสถาปนาขึ้น ณ บริเวณหน้าศาลพระธนบดีเศรษฐี โรงงานไพ่ กรมสรรพสามิต ในเวลา 8 โมงเช้า โดยจะจัดพิธีสักการะ ศาลพระธนบดีเศรษฐี ศาลพระพรหม และพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 และในวันดังกล่าว จะมีการถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ ถวายเครื่องไทยธรรมแด่พระสงฆ์ พระสงฆ์พรหมน้ำพระพุทธมนต์ เสริมความสิริมงคล กับการก้าวสู่ปีที่ 83 ของโรงงานไพ่ กรมสรรพสามิต ในรูปแบบ นิวนอร์มัล (New Normal) ในยุคที่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่ผู้บริหารทุกท่าน และพนักงานทุกคน สวมใส่แมสก์ และเว้นระยะห่าง ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข